ผู้เขียน หัวข้อ: การบำรุงรักษาและซ่อมแซม ท่อลมร้อน  (อ่าน 26 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 538
    • ดูรายละเอียด
การบำรุงรักษาและซ่อมแซม ท่อลมร้อน
« เมื่อ: วันที่ 24 พฤษภาคม 2025, 22:18:02 น. »
การบำรุงรักษาและซ่อมแซม ท่อลมร้อน

การบำรุงรักษาและซ่อมแซมท่อลมร้อนอย่างสม่ำเสมอและถูกต้องเป็นหัวใจสำคัญในการรับประกันประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และอายุการใช้งานที่ยาวนานของระบบในโรงงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance - PM) และการแก้ไขเมื่อเกิดปัญหา (Corrective Maintenance - CM)

1. การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance - PM)
มุ่งเน้นการตรวจจับและแก้ไขปัญหาเล็กน้อยก่อนที่จะลุกลามเป็นปัญหาใหญ่ การทำ PM ควรเป็นไปตามตารางเวลาที่กำหนด

1.1 การตรวจสอบด้วยสายตาและเครื่องมือ (Visual & Instrumented Inspection):

ความถี่: รายวัน, รายสัปดาห์, รายเดือน, รายไตรมาส, รายปี (ขึ้นอยู่กับความสำคัญและความเสี่ยงของท่อ)
สิ่งที่ต้องตรวจสอบ:
สภาพฉนวนและวัสดุหุ้ม (Insulation & Cladding): มองหารอยแตก, รอยบุบ, การฉีกขาด, การหลุดลอก, การยุบตัว, หรือการเปลี่ยนสีที่อาจบ่งชี้ถึงความเสียหายของฉนวนภายใน
รอยเชื่อมและข้อต่อ: ตรวจสอบร่องรอยการรั่วไหล (คราบ, รอยไหม้, ไอร้อน), สนิม, การกัดกร่อน หรือรอยแตกเล็กๆ บนรอยเชื่อม, หน้าแปลน, ข้อต่อ, และวาล์ว
ระบบรองรับท่อ (Pipe Supports): ตรวจสอบความแข็งแรง, การสึกหรอ, สนิม, หรือความเสียหายของ Support ตรวจสอบว่าท่อสามารถเคลื่อนที่ได้อิสระใน Support ชนิดที่ต้องมีการเคลื่อนที่ (Sliding/Roller Supports)
Expansion Joints/Loops: ตรวจสอบรอยแตกร้าว, การรั่วไหล, หรือการเคลื่อนที่ที่ผิดปกติ (เช่น การบิดตัว)
การกัดกร่อนใต้ฉนวน (Corrosion Under Insulation - CUI): เป็นอันตรายที่มองไม่เห็น ควรมีการตรวจสอบเฉพาะจุดที่มีความเสี่ยงสูงเป็นระยะ (อาจต้องถอดฉนวนออกบางส่วน)
อุปกรณ์วัดและควบคุม: ตรวจสอบสภาพของเกจวัดอุณหภูมิ/แรงดัน, เซ็นเซอร์, และวาล์วควบคุม ว่ายังคงอยู่ในสภาพดีและอ่านค่าได้ปกติ
เครื่องมือช่วยตรวจสอบ:
กล้องถ่ายภาพความร้อน (Thermal Camera): มีประสิทธิภาพสูงในการตรวจจับจุดร้อนที่ผิวฉนวน ซึ่งบ่งชี้ถึงการรั่วไหลหรือฉนวนเสียหาย
เครื่องตรวจจับการรั่วไหลด้วยเสียง (Ultrasonic Leak Detector): ตรวจจับเสียงความถี่สูงจากการรั่วไหลขนาดเล็ก

1.2 การทำความสะอาด (Cleaning):

ภายนอกท่อ: ทำความสะอาดฝุ่นละออง, สิ่งสกปรก, หรือสารเคมีที่อาจสะสมอยู่บนพื้นผิวท่อและฉนวน เพื่อป้องกันการกัดกร่อนและการสะสมความร้อน
ภายในท่อ (ถ้าจำเป็น): สำหรับบางระบบที่ต้องการความสะอาดสูง อาจมีการเป่าลมร้อน (Blowing) หรือ Flushing เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกที่สะสมภายในท่อ

1.3 การขันสลักเกลียวซ้ำ (Re-torqueing):

สำหรับหน้าแปลนและข้อต่อที่ทำงานภายใต้อุณหภูมิสูง ควรมีการขันสลักเกลียวซ้ำตามตารางเวลาที่กำหนด (หลังจากติดตั้งไประยะหนึ่ง และอาจจะทำเป็นประจำ) เพื่อรักษาความแน่นหนาของข้อต่อและป้องกันการรั่วไหลที่อาจเกิดขึ้นจากการคลายตัวของวัสดุเมื่อได้รับความร้อนและเย็นลงซ้ำๆ

1.4 การหล่อลื่น (Lubrication):

สำหรับ Expansion Joints หรือ Pipe Supports บางประเภทที่มีชิ้นส่วนเคลื่อนไหว (เช่น ลูกกลิ้ง) ควรมีการหล่อลื่นตามคำแนะนำของผู้ผลิต เพื่อให้ทำงานได้อย่างราบรื่นและลดการสึกหรอ


2. การซ่อมแซม (Corrective Maintenance - CM)

เป็นการดำเนินการเมื่อตรวจพบความผิดปกติหรือความเสียหายในระหว่างการตรวจสอบ หรือเมื่อระบบเกิดการขัดข้อง

2.1 การซ่อมแซมความเสียหายของฉนวนและวัสดุหุ้ม:

หากฉนวนหรือวัสดุหุ้มเสียหายเล็กน้อย ให้ทำการซ่อมแซมทันทีด้วยวัสดุที่เหมาะสม (เช่น การพันเทปฉนวน, การเปลี่ยนแผ่น Cladding ที่เสียหาย)
หากเสียหายรุนแรงหรือมีพื้นที่ขนาดใหญ่ ต้องเปลี่ยนฉนวนและวัสดุหุ้มส่วนนั้นออกทั้งหมด


2.2 การแก้ไขการรั่วไหล:

ระบุตำแหน่ง: ใช้เครื่องมือตรวจสอบ (Thermal Camera, Ultrasonic Detector) เพื่อระบุตำแหน่งการรั่วไหลที่ชัดเจน
ขั้นตอนการซ่อม:
ต้องมีใบอนุญาตทำงาน: ดำเนินการตามระบบ Permit-to-Work (เช่น Hot Work Permit) และ Lockout/Tagout (LOTO) อย่างเคร่งครัด
ระบายความร้อนและแรงดัน: ก่อนทำการซ่อมแซม ต้องหยุดการทำงานของระบบท่อลมร้อน ลดอุณหภูมิและระบายแรงดันออกจากท่อจนหมด
การเปลี่ยนปะเก็น/สลักเกลียว: สำหรับการรั่วไหลที่หน้าแปลน มักจะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนปะเก็นที่เสื่อมสภาพและสลักเกลียวที่อาจเสียหาย
การซ่อมรอยเชื่อม: หากรอยรั่วเกิดจากการแตกร้าวที่รอยเชื่อม อาจต้องทำการเจียรออกและเชื่อมใหม่ (Welding Repair) โดยช่างที่ผ่านการรับรอง และทำการทดสอบ NDT ซ้ำ
การเปลี่ยนชิ้นส่วนท่อ: ในกรณีที่ท่อเสียหายรุนแรง (เช่น บุบ, ฉีกขาด, กัดกร่อนทะลุ) จำเป็นต้องตัดท่อส่วนนั้นออกและเชื่อมท่อชิ้นใหม่เข้าไปแทน


2.3 การแก้ไขปัญหา Support และ Expansion Joints:

ซ่อมแซมหรือเปลี่ยน Support ที่เสียหาย เพื่อให้ท่อได้รับการรองรับอย่างเหมาะสม
หาก Expansion Joint เสียหายหรือมีการเคลื่อนที่ผิดปกติ อาจต้องซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ เพื่อป้องกันความเค้นต่อท่อ

2.4 การบำรุงรักษาอุปกรณ์เสริม:

ตรวจสอบและซ่อมแซมวาล์ว, เซ็นเซอร์, และอุปกรณ์วัดต่างๆ ที่ทำงานผิดปกติ


3. มาตรการด้านความปลอดภัยในการบำรุงรักษาและซ่อมแซม

Lockout/Tagout (LOTO): เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการป้องกันการจ่ายพลังงานโดยไม่ได้ตั้งใจ
อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE): บุคลากรต้องสวม PPE ที่เหมาะสม เช่น ถุงมือกันความร้อน, แว่นตานิรภัย, ชุดป้องกันความร้อน, รองเท้าเซฟตี้
การระบายอากาศ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีสภาพการระบายอากาศที่เพียงพอในพื้นที่ทำงาน
ความปลอดภัยในการทำงานบนที่สูง: หากท่ออยู่สูง ต้องปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยในการทำงานบนที่สูงอย่างเคร่งครัด (เช่น การใช้นั่งร้านที่มั่นคง, เข็มขัดนิรภัย)
การฝึกอบรม: บุคลากรที่ทำการบำรุงรักษาต้องได้รับการฝึกอบรมเฉพาะทางเกี่ยวกับระบบท่อลมร้อนและขั้นตอนความปลอดภัย

การบำรุงรักษาและซ่อมแซมท่อลมร้อนอย่างมีระบบและทำอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และมีอายุการใช้งานยาวนานที่สุดครับ