ผู้เขียน หัวข้อ: จัดฟันบางนา: ขูดหินปูน ควรทำเมื่อไหร่!  (อ่าน 17 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 440
    • ดูรายละเอียด
จัดฟันบางนา: ขูดหินปูน ควรทำเมื่อไหร่!
« เมื่อ: วันที่ 8 มีนาคม 2025, 13:27:31 น. »
จัดฟันบางนา: ขูดหินปูน ควรทำเมื่อไหร่!

ขูดหินปูน เป็นประจำทุกๆ 6 เดือนหรือ ปีละ 1ครั้ง จะช่วยให้สุขภาพในช่องปากเราดีไม่มีกลิ่นปาก เหงือกไม่อักเสบ และทุกๆครั้งที่มาพบหมอฟันคุณหมอจะตรวจดูสุขภาพเหงือกและฟันให้สะอาด โดยการขูดหินปูนและตรวจดูฟันผุให้ด้วยคะ

ขูดหินปูน

สิ่งที่ทำให้เกิดหินปูนมีหลายปัจจัย เช่น คราบอาหาร ชา กาแฟ คราบบุหรี่หรือแม้กระทั่งตัวเราเองที่ทำความสะอาดไม่ทั่ว เช่น แปลงฟันไม่สะอาด ไม่ใช้ไหมขัดฟันก็ทำให้เกิดหินปูนได้ เพราะฉะนั้นเราจึงควรพบทันตแพทย์เป็นประจำทุกๆ6เดือน หรือปีละ1ครั้ง

การขูดหินปูนสำหรับคนจัดฟัน
สำหรับคนที่จัดฟันก็สามารถขูดหินปูนทุกๆ6เดือนหรือ อาจจะบ่อยกว่านั้นแล้วแต่คุณหมอจัดฟันจะพิจารณา เพราะเวลาใส่เครื่องมือจัดฟันเราจะทำความสะอาดยากมาก เพราะจะมีทั้งลวดและโอริง,เชน ติดอยู่ที่ฟันเราตลอดเวลา ทำให้มีกลิ่นปากและมีหินปูนขึ้นเร็วกว่าปกติ เพราะฉะนั้น คนที่จัดฟันก็ควรขูดหินปูนเช่นกัน


การเกิดหินปู

หินปูน หรือหินน้ำลาย (Calculus) เกิดจากการสะสมของคราบจุลินทรีย์หรือคราบพลัค (Plaque) ที่ไม่ถูกกำจัดออกไปอย่างสม่ำเสมอ โดยคราบพลัคจะทำปฏิกิริยากับแร่ธาตุในน้ำลาย เช่น แคลเซียมและฟอสเฟต ทำให้เกิดการตกตะกอนและแข็งตัว กลายเป็นคราบหินปูนที่เกาะติดแน่นอยู่บนผิวฟันและตามขอบเหงือก


สาเหตุของการเกิดหินปูน

การทำความสะอาดช่องปากที่ไม่ทั่วถึง:
การแปรงฟันที่ไม่ถูกวิธี หรือการละเลยการใช้ไหมขัดฟัน ทำให้คราบพลัคสะสมและแข็งตัวกลายเป็นหินปูน

อาหารและเครื่องดื่ม:
อาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือแป้งสูง เช่น ขนมหวาน น้ำอัดลม หรืออาหารแปรรูป จะเป็นแหล่งอาหารของแบคทีเรียในช่องปาก ทำให้เกิดคราบพลัคและหินปูนได้ง่าย

น้ำลาย:
องค์ประกอบของน้ำลายแต่ละคนแตกต่างกัน บางคนมีแร่ธาตุในน้ำลายสูงกว่าปกติ ทำให้เกิดหินปูนได้ง่ายขึ้น

การสูบบุหรี่:
การสูบบุหรี่ทำให้เกิดคราบพลัคและหินปูนได้ง่ายขึ้น และยังทำให้เกิดปัญหาเหงือกอักเสบอีกด้วย

พันธุกรรม:
บางคนอาจมีแนวโน้มในการเกิดหินปูนได้ง่ายกว่าคนอื่น เนื่องจากพันธุกรรม


ผลกระทบของหินปูน

เหงือกอักเสบ:
หินปูนที่สะสมอยู่ตามขอบเหงือกจะทำให้เกิดการระคายเคืองและอักเสบของเหงือก

โรคปริทันต์:
หากปล่อยทิ้งไว้ เหงือกอักเสบจะลุกลามกลายเป็นโรคปริทันต์ ซึ่งทำให้เหงือกร่น ฟันโยก และอาจสูญเสียฟันได้

ฟันผุ:
หินปูนเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย ซึ่งจะผลิตกรดที่ทำลายเคลือบฟัน ทำให้เกิดฟันผุ

กลิ่นปาก:
หินปูนเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก


การป้องกันการเกิดหินปูน

แปรงฟันอย่างถูกวิธี:
แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยแปรงให้ทั่วถึงทุกซี่ และใช้เวลาแปรงอย่างน้อย 2 นาที

ใช้ไหมขัดฟัน:
ใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง เพื่อทำความสะอาดซอกฟันที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง

ใช้น้ำยาบ้วนปาก:
ใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เพื่อช่วยลดการสะสมของคราบพลัคและหินปูน

หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง:
ลดการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือแป้งสูง


พบทันตแพทย์เป็นประจำ:
พบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและขูดหินปูน
การดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการเกิดหินปูนและรักษาสุขภาพฟันและเหงือกให้แข็งแรง